• หน้าแรก
  • อุปมาแก่นไม้กับแก่นธรรม
  • พระพุทธรูปยุคต่างๆ
  • เสียงธรรมคีตะ
  • สมุดเยี่ยม
  • ติดต่อเรา
ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ฟังเทศน์ฟังธรรม ทุกวัน
อุปมาพรหมจรรย์กับแก่นไม์
             ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ณภูเขาคิชฌกูฏเขตพระนครราชคฤห์            เมื่อพระเทวทัตต์หลีกไปไม่นาน ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงปรารภพระเทวทัตต์ ตรัสเรียกตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรบางคนในโลกนี้ มีศรัทธา  ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตด้วย
คิดว่า  เราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัส  อุปายาสท่วมทับแล้วถูกความทุกข์ท่วมทับ
แล้วมีความทุกข์เป็นเบื้องหน้า
            ไฉนหนอความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ เขาบวชอย่างนั้นแล้วยังลาภสักการะ 
และความสรรเสริญให้บังเกิดขึ้น.เขามีความยินดี มีความดำริเต็มเปี่ยมด้วยลาภสักการะและความ  สรรเสริญนั้น.        เพราะลาภสักการะและความสรรเสริญ อันนั้น เขาย่อมยกตนข่มผู้อื่นว่า เรามีลาภสักการะและความสรรเสริญ ส่วนภิกษุอื่นนอกนี้ ไม่ปรากฏมีศักดาน้อย. เขาย่อมมัวเมา ถึงความประมาท เพราะลาภสักการะและความ
สรรเสริญนั้น   
            เมื่อเป็นผู้ประมาทแล้ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์ดูกรภิกษุทั้งหลายเปรียบเหมือนบุรุษผู้มีความต้องการ
แก่นไม้แสวงหาแก่นไม้ เที่ยวเสาะหาแก่นอยู่ เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ ละเลยแก่น ละเลยกระพี้ ละเลยเปลือก   ละเลยเสก็ดไปเสีย ตัดเอากิ่งและใบถือไปสำคัญว่าแก่น บุรุษผู้มีจักษุเห็นเขาผู้นั้นแล้วพึงกล่าวอย่างนี้ว่า     บุรุษผู้เจริญนี้ไม่รู้จักแก่นไม้ ไม่รู้จักกระพี้ ไม่รู้จักเปลือกไม่รู้จักสะเก็ด ไม่รู้จักกิ่งและใบจริงอย่างนั้น บุรุษผู้เจริญนี้    มีความ มีความต้องการแก่นไม้ แสวงหาแก่นไม้เที่ยวเสาะหาแก่นไม้อยู่ เมื่อต้นไม้ใหญ่ มีแก่นตั้งอยู่ ละเลยแก่นละเลย
กระพี้ ละเลยเปลือก ละเลยเสก็ดไปเสีย ตัดเอากิ่งและใบถือไป สำคัญว่าแก่น
            และกิจที่จะพึงทำด้วยไม้แก่นของเขา จักไม่สำเร็จประโยชน์แก่เขา ฉันใด กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีศรัทธา ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ด้วยคิดว่า เราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปยาส ท่วมทับแล้ว ถูกความทุกข์ท่วมทับแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้า ไฉนหนอ ความกระทำที่สุด
แห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้จะพึงปรากฏ เขาบวชอย่างนั้นแล้ว ยังลาภสักการะและความสรรเสริญให้บังเกิดขึ้น.                         เขามีความยินดี มีความดำริเต็มเปี่ยม ด้วยลาภสักการะและความสรรเสริญอันนั้น เพราะลาภสักการะและ
ความสรรเสริญอันนั้น เขาย่อมยกตนข่มผู้อื่นว่า เรามีลาภสักการะและความสรรเสริญ ส่วนภิกษุอื่นนอกนี้ ไม่ปรากฏ
 และถึงที่สุดแค่กิ่งและใบนั้น.