• หน้าแรก
  • อุปมาแก่นไม้กับแก่นธรรม
  • พระพุทธรูปยุคต่างๆ
  • เสียงธรรมคีตะ
  • สมุดเยี่ยม
  • ติดต่อเรา
ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ฟังเทศน์ฟังธรรม ทุกวัน
พุทธศาสนสุภาษิตคำกลอน
อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา
(การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต).
********************
        ไม่ควรคบคนพาลสันดานชั่ว
จะพาตัวอัปลักษณ์เสื่อมศักดิ์ศรี
ถูกตำหนิติฉินอย่างสิ้นดี
ทั้งเป็นที่ลบหลู่ของหมู่ชน
      คบบัณฑิตไว้เถิดประเสริฐนัก
ได้รู้จักลู่ทางสร้างกุศล
รู้ผิดชอบชั่วดีชูศรีตน
เป็นมงคลอุดมสุขสมบูรณ์.
      คบคนพาลพาลไปหาผิด
คบบัณฑิตบัณฑิตพาลไปหาผล
สุนทรภู่กล่าวไว้ให้ปวงชน
สำนีกตนจะคบใครใฝ่ใจดู
      จะคบคนให้ดูหน้าท่านว่าขาน
จะคบพาลจงรู้สึกนึกอดสู
คบบัณฑิเถิดหนาค่าเชิดชู
พาตนสู่บัณฑิตด้วยช่วยชูวงศ์.
 
มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร
(มารดาเป็นมิตรในเรือนตน)
********************
        แม่เป็นครูผู้สอนแต่ตอนต้น
แม่ทุกคนอุดมพรหมวิหาร
แม่เมตตากรุณามุทิตาการ
แม่มีญาณอุเบกขาเป็นอารณ์
       แม่เหมือนพระอรหันต์อันสูงสุด
แม่หวังบุตรธิดาอย่าขื่นขม
แม่กับลูกผูกมิตรจิตชื่นชม
แม่จึงสมสุภาษิตมิตรในเรือน.
      มีเพื่อนอื่นเหมื่นแสนไม่แม้นแม่
เป็นเพื่อนแท้แม่เกล้าเฝ้าอุปถัมภ์
เป็นทั้งแม่เพื่อนครูอยู่ประจำ
ทุกเช้าค่ำรักห่วงดังดวงใจ
      ให้กำเนิดเกิดกายสายโลหิต
แม่ไม่คิดหน่ายรักพลิกผลักใส
เป็นแม่พระแม่เรือนแม่เพื่อนใจ
แม่เมือนในธรรมคุณสุดบูชา.
 
อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย
(ชนะตนนั้นแหละเป็นดี)
********************
        ชนะศึกศัตรูหมู่อมิตร
ทั้วทุกทิศก็ไม่แน่กลับแพ้ได้
ชนะรักได้ครองห้องหัวใจ
ก็ใช่ชัยชนะที่จักจีรัง
      ชนะตนนั้นแลเลิศประเสริฐยิ่ง
ชนะจริงไม่กลับพ่ายในภายหลัง
ชนะกิเลสในตนพ้นรักชัง
ชนะยั่งยืนแท้แน่นักเอย.
      นโปเรียนเพียรทำสงครามศึก
ปัจจานึกแพ้พ่ายกระจายหนี
ได้เมืองขึ้นมากหมายหลายวิธี
แต่ยังมีเวรชิดตามติดตน
      ชนะใจเรานี้จึงดีกว่า
หมั่นอุส่าห์ก่อสร้างทางกุศล
เอาความชอบตอบใส่ดวงใจคน
ซึ่งจักดลสุกสันต์นิรันดร.
 
นิสมฺม กรณํ เสยฺโย
(ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า)
        สักวาจะทำกิจกรรมใด
จงตั้งใจใคร่ครวญให้ถ่วนถี่
แล้วจึงทำตามระบอบให้ชอบที
งานจะดีมีสติหมั่นตริครอง
      หาเหตุผลด้วยปัญญาจะพาตน
หลีกหนีพ้นจากทุกข์สุขสนอง
งานจะเสร็จสมหวังดังใจปอง
ด้วยสมองคิดย้ำก่อนทำเอย.
      สักวาถ้าทำกิจจงคิดก่อน
แล้วค่อยจรจับการงานในภายหลัง
เอาปัญญาสติกุมคุมระวัง
อย่าให้พลั้งงานสำเร็จเสร็จด้วยดี
      พระภาษิตบทนี้ชี้ให้เห็น
ถึงประเด็นคิดใคร่ครวญถูกถ้วนถี่
แล้วทำการงานก้าวหน้าไร้ราคี
กิจวิถีถูกธรรมชอบกอปรกิจเอย.
 
    อตฺตนาว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
    (ตนทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง)
        ตนทำบาปหยาบช้าพามัวหมอง
ตนจะต้องทนทุกข์ไร้สุขี
ตนปล่อยจิตคิดทำกรรมไม่ดี
ตนจะมีหมองเศร้าแผดเผาใจ
      ตนไม่ทำกรรมชั่วด้วยตัวแล้ว
ตนผ่องแผ้วทุกข์หมดจิตสดใส
ตนรักตัวบาปเห็นจงเว้นไกล
ตนจะได้สุขล้นเพราะตนเอย.
      ตนจับเจ่าเคล้าทุกข์ในคุกขัง
ตนถูกรั้งด้วยโซ่เส้นโตโหญ่
ตนถูกด่าถูกว่าให้สาใจ
ตนยากไร้ถูกหมิ่นสิ้นเมตตา
      ตนใช่ไหมทำตนใช่คนอื่น
ตนหยิบยื่นทุกข์ทนให้ตนหนา
ตนไม่ตรึกตามธรรมพระสัมมา
ตนชั่วช้าหม่นหมองเป็นของตน.
             (แหล่งที่มา มรดกกวี)